Knowledge Center
ปัจจุบันการเดินทางไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว ซึ่งสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิตในต่างถิ่นนอกจากเสื้อผ้าสวย ๆ หรือยาสามัญสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน คือ “อินเทอร์เน็ต” ไม่ว่าจะใช้เปิดแผนที่ หาแหล่งท่องเที่ยว ติดต่อสื่อสาร หรือใช้อัปคอนเทนต์ปัง ๆ ลงบนโซเชียลก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้
✨ แล้วจะใช้เน็ตที่ต่างประเทศยังไง? แบบไหนดีกว่า? แนะนำ 4 วิธีการใช้เน็ตที่ต่างประเทศ แล้วเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานกันเลย!
1. การเปิดโรมมิ่ง
การใช้บริการโรมมิ่ง (Roaming) เป็นบริการที่ให้ลูกค้าสามารถนำเครื่องไปใช้งานที่ต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ด เพียงเปิดบริการโรมมิ่ง และสมัครแพ็กเกจที่รองรับการใช้งานในประเทศนั้น ๆ เลือกได้ทั้งโทร ทั้งเน็ต ตามการใช้งานในราคาสบายกระเป๋า
ข้อดี
+ ไม่ต้องเปลี่ยนซิมใหม่
+ ใช้เบอร์เดิมในการโทรเข้า - โทรออก หรือเล่นอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์
+ สามารถรับ SMS และ OTP ได้ตามปกติ
+ ไม่ต้องถอดซิมโทรศัพท์มือถือบ่อย ๆ
+ ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั่วทุกมุมโลก
ข้อจำกัด
+ หากไม่ได้สมัครแพ็กเกจเพื่อไปใช้งานในประเทศนั้น ๆ กรณีมีการโทรออก รับสาย หรือใช้งานเน็ต จะเสียค่าบริการ ตามอัตราค่าบริการของเครือข่ายผู้ให้บริการในประเทศนั้น ๆ
สำหรับลูกค้า AIS สามารถเปิดใช้บริการโรมมิ่งได้ด้วยตนเองผ่านแอป myAIS และเลือกดูแพ็กเกจโรมมิ่งที่ถูกใจ แล้วสมัครได้ที่นี่ คลิก
ดาวน์โหลดแอป myAIS คลิก
2. ซื้อซิมโรมมิ่ง
ซิมโรมมิ่ง เป็นซิมการ์ดที่สามารถนำไปใช้งานที่ต่างประเทศ ด้วยค่าโทร ค่าเน็ตในราคาถูก เป็นอีกทางเลือกในการใช้งานในต่างประเทศ
สำหรับลูกค้า AIS ที่มี SIM2Fly อยู่แล้ว สามารถเก็บซิมไว้ใช้งานครั้งต่อไปประหยัดกว่าซื้อซิมใหม่เพียงเลือกแพ็กเกจเสริมที่ตรงใจคุณ แล้วสมัครได้ที่นี่ คลิก
ข้อดี
+ หาซื้อง่าย
+ เลือกแพ็กเกจได้ตามปริมาณการใช้งาน
+ ใช้งานง่าย ไม่ต้องตั้งค่า
+ ใช้ได้หลายประเทศ
+ ราคาถูก
ข้อจำกัด
+ ต้องเปลี่ยนซิม ทำให้เบอร์เดิมที่ใช้ประจำอาจติดต่อไม่ได้ชั่วคราว
+ ใช้งานได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น
+ ไม่เหมาะกับการแชร์อินเทอร์เน็ตให้อุปกรณ์อื่น เพราะอาจทำให้สัญญาณไม่เสถียรหรือทำให้ความเร็วของอินเทอร์เน็ตช้าลงและเกิดค่าบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม
3. ซื้อซิมต่างประเทศ
อีกหนึ่งวิธีที่ง่ายสุดซู้ดดด คือการซื้อซิมของประเทศนั้น ๆ เพราะโปรโมชันของซิมท้องถิ่นมักถูกกว่า แต่ ๆ ๆ ! อาจมีการตั้งค่าการใช้งานและการลงทะเบียนเพื่อใช้งานที่ซับซ้อน สำหรับใครที่จะใช้วิธีนี้ต้องมั่นใจว่าโทรศัพท์มือถือไม่ติดสัญญาจากผู้ให้บริการมือถือ หรือไม่ใช่เครื่องซิมล็อก (SIM Lock) ไม่งั้นใช้ซิมอื่นนอกจากซิมเครือข่ายที่ซื้อเครื่องมาไม่ได้น้า
ข้อดี
+ ราคาถูก
+ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลาย
+ สัญญาณเสถียร และครอบคลุม
ข้อจำกัด
+ หาซื้อตามร้านค้าทั่วไปได้ยาก แนะนำให้ซื้อที่สนามบิน
+ หากเลือกซื้อตามร้านทั่วไป ต้องระมัดระวังราคาที่สูงกว่าปกติ
+ ต้องเปลี่ยนซิม ทำให้เบอร์เดิมที่ใช้ประจำอาจติดต่อไม่ได้ชั่วคราว
+ ขั้นตอนการเติมเงินยุ่งยากหากแพ็กเกจหมด ต้องหมั่นเช็กการใช้งานอยู่เสมอ
4. Pocket Wi-Fi
พ็อกเก็ตไวไฟ (Pocket WI-FI) คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นเราเตอร์ (Router) ปล่อยสัญญาณไฟไวขนาดเล็ก สามารถใช้เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีหากมีเพื่อนร่วมทริปหลายคน หรือกรณีที่มีอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อหลายเครื่อง
ข้อดี
+ เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์
+ ขนาดเล็ก พกพาง่าย
+ สามารถหารค่าเช่ากับเพื่อนได้
+ สัญญาณครอบคลุมหลากหลายพื้นที่
+ ซื้อ/เช่า ได้ตามร้านค้าออนไลน์ หรือสนามบิน
ข้อจำกัด
+ มีแบตเตอรี่ในการใช้งานที่จำกัด ระหว่างวันอาจจะต้องหาปลั๊กเสียบชาร์จ หรือต้องพก power bank เพิ่ม
+ ความเร็วของอินเทอร์เน็ตจะช้าลง หากมีการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
+ หากใช้ร่วมกันหลายคนจะต้องอยู่รวมกัน ถ้าแยกกันจะไม่สามารถใช้งานได้
+ ต้องพกหลายเครื่อง เพราะเป็นอุปกรณ์ปล่อยสัญญาณที่แยกออกจากโทรศัพท์มือถือ
✨ แล้วจะใช้แบบไหนดี?
หากไม่อยากพกอุปกรณ์หลายชิ้น และใช้งานง่าย การซื้อแพ็กเกจโรมมิ่ง หรือซื้อซิมโรมมิ่ง จะตอบโจทย์ที่สุด ส่วนการซื้อซิมการ์ดของประเทศนั้น ๆ แนะนำให้ใช้เมื่อเดินทางไปประเทศที่ไม่นิยม หรือประเทศที่ไม่มีบริการโรมมิ่งจะดีกว่า แต่ถ้าเดินทางกับเพื่อนหลายคน หรือมีหลายอุปกรณ์ที่ต้องเชื่อมอินเตอร์เน็ตในเวลาเดียวกันก็แนะนำให้ ซื้อ/เช่า พ็อกเก็ตไวไฟโล้ดด
